ที่ผ่านมาจะเห็นได้ชัดแล้วว่า OPPO เริ่มแสดงจุดเด่นของตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะที่เป็นจุดขายในเวลานี้นั่นคือเรื่องของ Sefie จนกระทั่งตั้งนิยามมือถือตัวเองว่า Selfie Expert และนี่คือ OPPO F1s อีกรุ่นที่เน้นการ Selfie
จากที่ลองใช้งานก็พบว่า OPPO มีความโดดเด่นด้านนี้จริงๆ แต่ในด้านอื่นละจะมีอะไรบ้าง เดี๋ยวลองมาดูกันในรีวิวชิ้นนี้ครับ
การออกแบบ – คุ้นๆ นะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
เป็นที่น่าเสียดายมากว่า การออกแบบของ OPPO F1s นั้นมีความคุ้นเคยกับสมาร์ทโฟนที่เราเคยเห็นมาก่อนหน้านี้ ใช่ครับ มันคล้ายกับ iPhone 6s มากเลยทีเดียว ทั้งการจัดวางปุ่มต่างๆ ด้านหน้าตัวเครื่อง
พร้อมกันนี้ในส่วนที่เป็นอินเตอร์เฟสของตัวเครื่อง แอปกล้องถ่ายภาพ ไปจนถึง defualt theme ก็มีความคล้ายกับ iOS อยู่เหมือนกัน, อ่า ขอโทษทีครับ เรากำลังคุยถึงเรื่องงานออกแบบกันอยู่
โอเค แต่ถ้าตัดเรื่องของการออกแบบ การประกอบงานถือว่าใช้ได้ครับ ตัวเครื่องใช้โลหะที่เป็น Unibody ส่วนโค้งของตัวเครื่องก็รับมุมเข้ามือ พอที่จะใช้งานสะดวกอยู่ แม้จะมีขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้วที่ค่อนข้างใหญ่
ด้านหลังตัวเครื่องทั้งส่วนบนและส่วนล่างจะเป็นช่องรับสัญญาณไร้สายต่างๆ ซึ่งสีจะตัดกับฝาหลัง พร้อมกันนี้ด้านล่างยังมีลำโพง แต่เป็นลำโพงเดี่ยว
การถ่ายภาพ -เรื่องเซลฟี่ต้องยกให้
จากที่ลองเรื่องของการเซลฟี่ (selfie) ก็คงเป็นดั่งคำโฆษณาของ OPPO เขาละครับ เพราะมีความโดดเด่นด้านกล้องหน้าจริงๆ และ OPPO ก็เน้นไปที่กล้องหน้าเป็นหลักเสียด้วย
โดยกล้องหลังของ OPPO F1s ให้มาที่ 13 ล้านพิกเซล f/2.2 ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ 16 ล้านพิกเซล f/2.0 พร้อม Beauty 4.0 ที่สามารถปรับระดับได้มากถึง 7 ระดับ ซึ่งจากที่ใช้งานมา ผมคิดว่า ระดับที่ 7 แลดูจะเป็นเอเลียน (aliens) มากไปสักหน่อย ถ้าลดระดับลงมาสัก 4 หรือ 5 คิดว่ากำลังดี
กล้องหน้า
จุดเด่นของกล้องหน้า OPPO นอกจากเรื่อง beauty mode แล้ว ก็คงเป็นภาพที่ได้จากการเซลฟี่ ผมคิดว่า ภาพค่อนข้างคม แสงที่ให้ก็ค่อนข้างเนียน และชัด ถ้าชอบการ Selfie ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกแรกๆ เลย
ส่วนกล้องหลังนั้น คุณภาพถือว่ากลางๆ ในราคาต่ำหมื่น อาจจะมีปัญหาในการถ่ายภาพสักหน่อย ถ้าหากต้องถ่ายในสภาวะแสงน้อย เพราะภาพจะเก็บรายละเอียดไม่ดี ขาดความขมไปเยอะเหมือนกัน ซึ่งถ้าต้องการเน้นกล้องหลังจริงๆ ตัวเลือกของแบรนด์อื่นอาจจะน่าสนใจกว่า
ทั้งนี้ในส่วนอินเตอร์เฟสของกล้อง ก็มีความคล้ายกับ iPhone สักหน่อย เช่นปุ่มชัตเตอร์ ปุ่มที่จะเลื่อนไปยังโหมดการถ่ายภาพอื่นๆ ไอคอนของกล้องหน้า เป็นต้น ตรงนี้เลยทำให้ดูไม่ค่อยเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมากนัก
กล้องหลัง
แบตเตอรี -ไม่มี Vooc Charge แต่ก็ใช้งานได้จบวัน
แม้ว่าในสเปกเครื่อง OPPO F1s จะระบุว่า แบตเตอรีนั้นให้มาที่ 3075 mAh ผมก็คิดเหมือนกับผู้อ่านหลายท่านว่า แบตเตอรีมันจะดูน้อยๆ ไปรึเปล่า แถมไม่มีเทคโนโลยี Vooc Charge ที่เป็นจุดขายของ OPPO ด้วย
แต่เอาเข้าจริง ก็อยู่ในระดับพอใช้งานได้หนึ่งวัน ซึ่งกิจวัตรประจำวันที่ผมใช้งานก็มีตั้งแต่การรับ/ส่งอีเมล แชต ถ่ายภาพ ใช้งานโซเชียล ดูวิดีโอ
วิเคราะห์ -ถ้าซื้อ OPPO F1s ในเดือนพฤศจิกายน?
อันที่จริงถ้านับจากวันที่ OPPO วางจำหน่าย F1S จนถึงตอนนี้ก็ราวๆ สามเดือนเศษๆ ก็ถือว่าไม่ได้เป็นระยะเวลาที่นานเกินไป ตัวเครื่องยังไม่อยู่ในสถานะตกรุ่น แม้ว่าในต่างประเทศจะเปิดตัว OPPO R9 และ R9S แต่สองรุ่นนั้น มีระดับราคาที่ต่างจาก F1S พอสมควร (ราคาห่างราวๆ 4-5,000 บาท)
ถ้าดูจากจุดประสงค์เอาไว้ใช้งานทั่วไป และเน้นการถ่าย Selfie (ขีดเส้นใต้สองเส้น) ผมคิดว่า ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว เพราะเอาเข้าจริงกลุ่มคนที่ชอบการ Selfie นี่มีเยอะมากๆ ครับ แถมยังเอาไป Apply ใช้ในวัตถุประสงค์อื่นได้อีกด้วย อาทิ Facebook Live หรือถ้าทันสมัยหน่อยก็ Snapchat สำหรับการถ่ายตัวเองด้วยกล้องหน้า ก็จัดได้ว่า OPPO F1s เป็นตัวเลือกที่ดีของคุณเลยล่ะครับ
อ้อยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ผมชอบก็คือ OPPO F1s ออกแบบมาให้ใช้งาน 2 SIM โดยที่แยกระหว่าง SIM Card กับ MicroSD ออกจากกัน ไม่ต้องให้ SIM 2 มา hybrid กับ microSD ตรงนี้เป็นสิ่งที่ผมชอบมาก
อย่างไรก็ตาม ในด้านการออกแบบแล้ว มันมีความคล้ายกับ iPhone เกินไป จนทำให้ตัวเครื่องขาดจุดเด่นที่จะทำให้ผู้คนจดจำ OPPO
จุดเด่น
- มีความโดดเด่นด้านเซลฟี่
- ราคาไม่แพงนัก 9,990 บาท
จุดด้อย
- งานดีไซน์เหมือน iPhone เกินไป
สเปกเครื่อง
- หน้าจอ 5.5 นิ้ว 720P
- MediaTek MT6750 Octa-core
- RAM 3GB
- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล f/2.0
- หน่วยความจำเครื่อง 32GB
- ColorOS 3.0, Android 5.1
- แบตเตอรี 3075 mAh